หน้านี้จะอธิบายวิธีติดตั้ง Bazel ใน macOS และตั้งค่าสภาพแวดล้อม
คุณติดตั้ง Bazel ใน macOS ได้โดยใช้วิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้
Bazel มาพร้อมกับสคริปต์การทํางานเสร็จสมบูรณ์ 2 รายการ หลังจากติดตั้ง Bazel แล้ว คุณจะทำสิ่งต่อไปนี้ได้
การติดตั้งโดยใช้ Homebrew
ขั้นตอนที่ 1: ติดตั้ง Homebrew ใน macOS
ติดตั้ง Homebrew (ขั้นตอนที่ต้องทำเพียงครั้งเดียว)
/bin/bash -c "$(curl -fsSL https://raw.githubusercontent.com/Homebrew/install/HEAD/install.sh)"
ขั้นตอนที่ 2: ติดตั้ง Bazel ผ่าน Homebrew
ติดตั้งแพ็กเกจ Bazel ผ่าน Homebrew ดังนี้
brew install bazel
เรียบร้อยแล้ว คุณสามารถตรวจสอบว่าติดตั้ง Bazel สำเร็จแล้วโดยเรียกใช้คำสั่งต่อไปนี้
bazel --version
เมื่อติดตั้งแล้ว คุณจะอัปเกรดเป็น Bazel เวอร์ชันใหม่ได้โดยใช้คำสั่งต่อไปนี้
brew upgrade bazel
การติดตั้งโดยใช้โปรแกรมติดตั้งแบบไบนารี
โปรแกรมติดตั้งแบบไบนารีอยู่ในหน้ารุ่นของ GitHub ของ Bazel
โปรแกรมติดตั้งมีไฟล์ปฏิบัติการ Bazel นอกจากนี้ ยังต้องติดตั้งไลบรารีเพิ่มเติมบางรายการเพื่อให้ Bazel ทำงานได้
ขั้นตอนที่ 1: ติดตั้งเครื่องมือบรรทัดคำสั่ง Xcode
หากไม่ได้ตั้งใจจะใช้กฎ ios_*
ก็เพียงติดตั้งแพ็กเกจเครื่องมือบรรทัดคำสั่งของ Xcode โดยใช้ xcode-select
ดังนี้
xcode-select --install
หรือหากต้องการใช้กฎ ios_*
คุณต้องติดตั้ง Xcode 6.1 ขึ้นไปที่มี iOS SDK 8.1 ในระบบ
ดาวน์โหลด Xcode จาก App Store หรือเว็บไซต์นักพัฒนาแอปของ Apple
เมื่อติดตั้ง Xcode แล้ว ให้ยอมรับข้อตกลงการอนุญาตให้ใช้สิทธิสำหรับผู้ใช้ทุกคนด้วยคำสั่งต่อไปนี้
sudo xcodebuild -license accept
ขั้นตอนที่ 2: ดาวน์โหลดโปรแกรมติดตั้ง Bazel
จากนั้นดาวน์โหลดโปรแกรมติดตั้งแบบไบนารีของ Bazel ที่มีชื่อว่า bazel-<version>-installer-darwin-x86_64.sh
จากหน้ารุ่นของ Bazel ใน GitHub
ใน macOS Catalina ขึ้นไป (macOS >= 11) เนื่องจากข้อกำหนดใหม่เกี่ยวกับการลงนามแอปของ Apple คุณจึงต้องดาวน์โหลดโปรแกรมติดตั้งจากเทอร์มินัลโดยใช้ curl
โดยแทนที่ตัวแปรเวอร์ชันด้วยเวอร์ชัน Bazel ที่ต้องการดาวน์โหลด ดังนี้
export BAZEL_VERSION=5.2.0
curl -fLO "https://github.com/bazelbuild/bazel/releases/download/$BAZEL_VERSION/bazel-$BAZEL_VERSION-installer-darwin-x86_64.sh"
วิธีนี้เป็นวิธีแก้ปัญหาชั่วคราวจนกว่าขั้นตอนการเผยแพร่ของ macOS จะรองรับการลงนาม (#9304)
ขั้นตอนที่ 3: เรียกใช้โปรแกรมติดตั้ง
เรียกใช้โปรแกรมติดตั้ง Bazel ดังนี้
chmod +x "bazel-$BAZEL_VERSION-installer-darwin-x86_64.sh"
./bazel-$BAZEL_VERSION-installer-darwin-x86_64.sh --user
Flag --user
จะติดตั้ง Bazel ลงในไดเรกทอรี $HOME/bin
ในระบบและตั้งค่าเส้นทาง .bazelrc
เป็น $HOME/.bazelrc
ใช้คำสั่ง --help
เพื่อดูตัวเลือกการติดตั้งเพิ่มเติม
หากคุณใช้ macOS Catalina ขึ้นไป (macOS >= 11) และได้รับข้อผิดพลาดว่าเปิด "bazel-real" ไม่ได้เนื่องจากยืนยันนักพัฒนาแอปไม่ได้ คุณจะต้องดาวน์โหลดโปรแกรมติดตั้งอีกครั้งจากเทอร์มินัลโดยใช้ curl
เป็นวิธีแก้ปัญหาชั่วคราว ดูขั้นตอนที่ 2 ด้านบน
ขั้นตอนที่ 4: ตั้งค่าสภาพแวดล้อม
หากคุณเรียกใช้โปรแกรมติดตั้ง Bazel พร้อม Flag --user
ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ระบบจะติดตั้งไฟล์ปฏิบัติการของ Bazel ในไดเรกทอรี HOME/bin
เราขอแนะนำให้เพิ่มไดเรกทอรีนี้ลงในเส้นทางเริ่มต้น ดังนี้
export PATH="PATH:HOME/bin"
นอกจากนี้ คุณยังเพิ่มคําสั่งนี้ลงในไฟล์ ~/.bashrc
, ~/.zshrc
หรือ ~/.profile
ได้อีกด้วย
เรียบร้อยแล้ว คุณสามารถตรวจสอบว่าติดตั้ง Bazel สำเร็จแล้วโดยเรียกใช้คำสั่งต่อไปนี้
bazel --version
หากต้องการอัปเดตเป็น Bazel เวอร์ชันใหม่ ให้ดาวน์โหลดและติดตั้งเวอร์ชันที่ต้องการ