หน้านี้ได้รับการแปลโดย Cloud Translation API

กฎ C / C++

กฎ

cc_binary
cc_import
cc_library
cc_proto_library
fdo_prefetch_hints
fdo_profile
propeller_optimize
cc_test
cc_toolchain
cc_toolchain_suite

cc_binary

cc_binary(name, deps, srcs, data, additional_linker_inputs, args, compatible_with, copts, defines, deprecation, distribs, env, exec_compatible_with, exec_properties, features, includes, licenses, linkopts, linkshared, linkstatic, local_defines, malloc, nocopts, output_licenses, restricted_to, stamp, tags, target_compatible_with, testonly, toolchains, visibility, win_def_file)

เป้าหมายเอาต์พุตโดยนัย

name.stripped (สร้างเฉพาะเมื่อขออย่างชัดแจ้ง): ไบนารีเวอร์ชันที่ถูกตัดออก จะมีการเรียกใช้ strip -g ในไบนารีเพื่อนำสัญลักษณ์การแก้ไขข้อบกพร่องออก คุณระบุตัวเลือกแถบเพิ่มเติมในบรรทัดคำสั่งได้โดยใช้ --stripopt=-foo ระบบจะสร้างเอาต์พุตนี้ก็ต่อเมื่อมีการขออย่างชัดแจ้งเท่านั้น
name.dwp (สร้างเมื่อมีการขออย่างชัดแจ้งเท่านั้น): หากเปิดใช้ Fission อยู่: ไฟล์แพ็กเกจข้อมูลการแก้ไขข้อบกพร่องที่เหมาะสำหรับการแก้ไขข้อบกพร่องไบนารีที่ใช้งานจากระยะไกล อื่นๆ: ไฟล์เปล่า

อาร์กิวเมนต์

Attributes
`name`	`Name; required` ชื่อที่ไม่ซ้ำกันสำหรับเป้าหมายนี้
`deps`	`List of labels; optional` รายการไลบรารีอื่นๆ ที่จะลิงก์กับเป้าหมายไบนารี ซึ่งอาจเป็นเป้าหมาย `cc_library` หรือ `objc_library` ก็ได้
`srcs`	`List of labels; optional` รายการไฟล์ C และ C++ ที่ประมวลผลเพื่อสร้างเป้าหมาย ไฟล์เหล่านี้เป็นไฟล์ต้นฉบับและส่วนหัว C/C++ ซึ่งอาจไม่ได้สร้างขึ้น (ซอร์สโค้ดปกติ) หรือสร้างขึ้น ระบบจะคอมไพล์ไฟล์ `.cc`, `.c` และ `.cpp` ทั้งหมด ไฟล์เหล่านี้อาจสร้างขึ้น หากไฟล์ที่ตั้งชื่ออยู่ใน `outs` ของกฎอื่น กฎนี้จะขึ้นอยู่กับกฎอื่นนั้นโดยอัตโนมัติ ระบบจะไม่คอมไพล์ไฟล์ `.h` แต่จะรวมตามแหล่งที่มาในกฎนี้ได้ ทั้งไฟล์ `.cc` และ `.h` จะมีส่วนหัวที่ระบุไว้ใน `srcs` เหล่านี้หรือใน `hdrs` ของกฎใดก็ได้ที่แสดงอยู่ในอาร์กิวเมนต์ `deps` ต้องพูดถึงไฟล์ทั้งหมด `#include`d ไฟล์ในแอตทริบิวต์ `srcs` ของกฎนี้ หรือในแอตทริบิวต์ `hdrs` ของ `cc_library()` ที่อ้างอิง รูปแบบที่แนะนำคือสำหรับส่วนหัวที่เชื่อมโยงกับไลบรารีที่จะแสดงในแอตทริบิวต์ `hdrs` ของไลบรารีนั้น และส่วนหัวที่เหลือทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับแหล่งที่มาของกฎนี้จะแสดงใน `srcs` ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน "การตรวจสอบการรวมส่วนหัว" หากชื่อของกฎอยู่ใน `srcs` กฎนี้จะอิงตามกฎดังกล่าวโดยอัตโนมัติ หาก `outs` ของกฎที่มีชื่อเป็นไฟล์ต้นฉบับ C หรือ C++ ระบบจะรวบรวมไฟล์เหล่านั้นไว้ในกฎนี้ หากเป็นไฟล์ไลบรารี ไฟล์ก็จะลิงก์กันเข้ามา ไฟล์ที่อนุญาต `srcs` ประเภท: ไฟล์ต้นฉบับ C และ C++: `.c`, `.cc`, `.cpp`, `.cxx`, `.c++`, `.C` ไฟล์ส่วนหัว C และ C++: `.h`, `.hh`, `.hpp`, `.hxx`, `.inc`, `.inl`, `.H` Assembler with C Preprocessor: `.S` ที่เก็บถาวร: `.a`, `.pic.a` ไลบรารี "ลิงก์เสมอ": `.lo`, `.pic.lo` ไลบรารีที่ใช้ร่วมกัน มีเวอร์ชันหรือไม่กำหนดเวอร์ชัน: `.so`, `.so.version` ไฟล์ออบเจ็กต์: `.o`, `.pic.o` ...และกฎต่างๆ ที่สร้างไฟล์เหล่านี้ ส่วนขยายที่ต่างกันจะบ่งชี้ภาษาโปรแกรมที่ต่างกันตามธรรมเนียมของ GCC
`additional_linker_inputs`	`List of labels; optional` ส่งผ่านไฟล์เหล่านี้ไปยังคำสั่ง Linker C++ เช่น ไฟล์ .res ของ Windows ที่คอมไพล์อาจจะมีให้ที่นี่เพื่อฝังลงในเป้าหมายไบนารี
`copts`	`List of strings; optional` เพิ่มตัวเลือกเหล่านี้ในคำสั่งการคอมไพล์ C++ ขึ้นอยู่กับการแทนที่ "สร้างตัวแปร" และการแปลงข้อมูลเป็นโทเค็นของ Bourne shell ระบบจะเพิ่มสตริงแต่ละรายการในแอตทริบิวต์นี้ตามลำดับที่กำหนดไปยัง `COPTS` ก่อนคอมไพล์เป้าหมายไบนารี แฟล็กจะมีผลกับการคอมไพล์เป้าหมายนี้เท่านั้น ไม่ใช่ทรัพยากร Dependency ของ URL นั้นๆ ดังนั้นโปรดระมัดระวังเกี่ยวกับไฟล์ส่วนหัวที่รวมอยู่ที่อื่นด้วย เส้นทางทั้งหมดควรสัมพัทธ์กับพื้นที่ทำงาน ไม่ใช่แพ็กเกจปัจจุบัน หากแพ็กเกจประกาศฟีเจอร์ `no_copts_tokenization` การแปลงเป็นโทเค็นของ Bourne shell จะมีผลกับสตริงที่มีตัวแปร "Make" เพียงรายการเดียวเท่านั้น
`defines`	`List of strings; optional` รายการกำหนดที่จะเพิ่มในบรรทัดคอมไพล์ ขึ้นอยู่กับการแทนที่ ตัวแปร"Make" และการแปลงข้อมูลเป็นโทเค็นของ Bourne shell แต่ละสตริงต้องประกอบด้วยโทเค็น Bourne Shell รายการเดียว ระบบจะใส่ `-D` ไว้หน้าและเพิ่มลงในบรรทัดคำสั่งคอมไพล์ให้กับเป้าหมายนี้ รวมถึงกฎทั้งหมดที่ต้องใช้โทเค็นดังกล่าว โปรดใช้ความระมัดระวังให้มาก เนื่องจากอาจส่งผลกระทบในวงกว้าง หากไม่แน่ใจ ให้เพิ่มการกําหนดค่าลงใน `local_defines` แทน
`includes`	`List of strings; optional` รายการรวมไดเรกทอรีที่จะเพิ่มลงในบรรทัดคอมไพล์ ขึ้นอยู่กับการแทนที่ "สร้างตัวแปร" แต่ละสตริงจะใส่ `-isystem` ไว้หน้าและเพิ่มลงใน `COPTS` ระบบจะเพิ่มแฟล็กเหล่านี้สำหรับกฎนี้และทุกกฎที่ขึ้นอยู่กับ COPTS (หมายเหตุ: ไม่ใช่กฎเกณฑ์จะขึ้นอยู่กับ) โปรดใช้ความระมัดระวังให้มาก เนื่องจากอาจส่งผลกระทบในวงกว้าง หากไม่แน่ใจ ให้เพิ่มแฟล็ก "-I" ใน COPTS แทน ต้องเพิ่มส่วนหัวลงใน srcs หรือ hdrs ไม่เช่นนั้นจะใช้ไม่ได้กับกฎที่เกี่ยวข้องเมื่อการคอมไพล์เป็นแซนด์บ็อกซ์ (ค่าเริ่มต้น)
`linkopts`	`List of strings; optional` เพิ่มแฟล็กเหล่านี้ไปยังคำสั่ง Linker C++ ขึ้นอยู่กับการแทนที่ ตัวแปร"Make" การแปลงข้อมูลเป็นโทเค็นของ Bourne shell และ การขยายป้ายกำกับ ระบบจะเพิ่มสตริงแต่ละรายการในแอตทริบิวต์นี้ลงใน `LINKOPTS` ก่อนลิงก์เป้าหมายไบนารี ระบบจะถือว่าแต่ละองค์ประกอบในรายการนี้ที่ไม่ได้ขึ้นต้นด้วย `$` หรือ `-` เป็นป้ายกำกับของเป้าหมายใน `deps` รายการไฟล์ที่เป้าหมายนั้นสร้างขึ้นจะต่อท้ายตัวเลือก Linker ระบบจะรายงานข้อผิดพลาดหากป้ายกำกับไม่ถูกต้องหรือไม่ได้ประกาศไว้ใน `deps`
`linkshared`	`Boolean; optional; nonconfigurable; default is False` สร้างไลบรารีที่ใช้ร่วมกัน หากต้องการเปิดใช้แอตทริบิวต์นี้ ให้ใส่ `linkshared=True` ไว้ในกฎ ตัวเลือกนี้จะปิดอยู่โดยค่าเริ่มต้น การมี Flag นี้หมายความว่าการลิงก์เกิดขึ้นพร้อมกับแฟล็ก `-shared` ไปยัง `gcc` และไลบรารีที่ใช้ร่วมกันที่ได้จะเหมาะสำหรับการโหลดลงในโปรแกรม Java เช่น อย่างไรก็ตาม สำหรับวัตถุประสงค์ของบิลด์ จะไม่มีการลิงก์เข้ากับไบนารีที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากจะมีสมมติฐานว่าไลบรารีที่ใช้ร่วมกันที่สร้างด้วยกฎ cc_binary จะโหลดด้วยตนเองโดยโปรแกรมอื่นๆ เท่านั้น จึงไม่ถือว่าไลบรารีดังกล่าวใช้แทนกฎ cc_library เราขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงวิธีการนี้ทั้งหมดเพื่อความสามารถในการปรับขนาด และอนุญาตให้ `java_library` อิงตามกฎ `cc_library` แทน หากระบุทั้ง `linkopts=['-static']` และ `linkshared=True` คุณจะได้รับหน่วยในตัวเดียวอย่างสมบูรณ์ หากระบุทั้ง `linkstatic=True` และ `linkshared=True` คุณจะได้รับหน่วยเดียวซึ่งส่วนใหญ่มีตัวแปรในตัว
`linkstatic`	`Boolean; optional; default is True` สำหรับ `cc_binary` และ `cc_test`: ลิงก์ไบนารีในโหมดคงที่ สำหรับ `cc_library.linkstatic`: โปรดดูด้านล่าง ตามค่าเริ่มต้น ตัวเลือกนี้จะเปิดอยู่สำหรับ `cc_binary` และปิดสำหรับเวอร์ชันที่เหลือ หากเปิดใช้และนี่เป็นไบนารีหรือการทดสอบ ตัวเลือกนี้จะบอกให้เครื่องมือสร้างลิงก์ใน `.a` แทน `.so` สำหรับไลบรารีผู้ใช้ทุกครั้งที่ทำได้ ไลบรารีระบบบางรายการอาจยังคงลิงก์แบบไดนามิกอยู่ เช่น ไลบรารีที่ไม่มีไลบรารีแบบคงที่ ดังนั้นไฟล์สั่งการที่ได้จะยังคงลิงก์แบบไดนามิก จึงมีแต่ไฟล์ส่วนใหญ่แบบคงที่ การลิงก์ไฟล์ปฏิบัติการทำได้ 3 วิธีดังนี้ สถิติที่มีฟีเจอร์full_static_link ซึ่งทุกอย่างลิงก์แบบคงที่ เช่น "`gcc -static foo.o libbar.a libbaz.a -lm`" โหมดนี้เปิดใช้ได้โดยระบุ `fully_static_link` ในแอตทริบิวต์ `features` สถิติ ซึ่งไลบรารีผู้ใช้ทั้งหมดจะลิงก์แบบคงที่ (หากมีเวอร์ชันคงที่) แต่มีการลิงก์ไลบรารีระบบ (ยกเว้นไลบรารีรันไทม์ C/C++) แบบไดนามิก เช่น "`gcc foo.o libfoo.a libbaz.a -lm`" โหมดนี้จะเปิดใช้โดยระบุ `linkstatic=True` ไดนามิก ซึ่งไลบรารีทั้งหมดลิงก์แบบไดนามิก (หากมีเวอร์ชันแบบไดนามิก) เช่น "`gcc foo.o libfoo.so libbaz.so -lm`" โหมดนี้เปิดใช้งานได้โดยการระบุ `linkstatic=False` แอตทริบิวต์ `linkstatic` มีความหมายต่างกันหากใช้กับกฎ `cc_library()` สำหรับไลบรารี C++ แล้ว `linkstatic=True` จะระบุว่าอนุญาต การลิงก์แบบคงที่เท่านั้น ดังนั้นจึงจะไม่มีการสร้าง `.so` linkstatic=False ไม่ได้ป้องกันการสร้างไลบรารีแบบคงที่ แอตทริบิวต์นี้มีไว้เพื่อควบคุมการสร้างไลบรารีแบบไดนามิก หากตั้งค่าเป็น `linkstatic=False` เครื่องมือสร้างจะสร้างลิงก์สัญลักษณ์ไปยังไลบรารีที่ใช้ร่วมกันซึ่งอ้างอิงในพื้นที่ `*.runfiles`
`local_defines`	`List of strings; optional` รายการกำหนดที่จะเพิ่มในบรรทัดคอมไพล์ ขึ้นอยู่กับการแทนที่ ตัวแปร"Make" และการแปลงข้อมูลเป็นโทเค็นของ Bourne shell แต่ละสตริงซึ่งต้องประกอบด้วยโทเค็น Bourne Shell เดี่ยว จะถูกเพิ่มต่อท้ายด้วย `-D` และเพิ่มในบรรทัดคำสั่งของคอมไพล์สำหรับเป้าหมายนี้ แต่ไม่เพิ่มลงในทรัพยากร Dependency
`malloc`	`Label; optional; default is @bazel_tools//tools/cpp:malloc` ลบล้างทรัพยากร Dependency เริ่มต้นบน Malloc โดยค่าเริ่มต้น ไบนารี C++ จะลิงก์กับ `//tools/cpp:malloc` ซึ่งเป็นไลบรารีว่าง ไบนารีจึงใช้ libc Malloc แทน ป้ายกำกับนี้ต้องอ้างอิงถึง `cc_library` หากการคอมไพล์เป็นกฎที่ไม่ใช่ C++ ตัวเลือกนี้จะไม่มีผล ระบบจะละเว้นค่าของแอตทริบิวต์นี้หากระบุ `linkshared=True`
`nocopts`	`String; optional` นำรูปแบบการทำงานออกจากคำสั่งการคอมไพล์ C++ ขึ้นอยู่กับการแทนที่ตัวแปร"ผู้ผลิต" ระบบจะตีความค่าของแอตทริบิวต์นี้เป็นนิพจน์ทั่วไป ระบบจะนำ `COPTS` ที่มีอยู่แล้วก่อนหน้าที่ตรงกับนิพจน์ทั่วไปนี้ (รวมถึงค่าที่ระบุอย่างชัดแจ้งในแอตทริบิวต์ copts ของกฎ) ออกจาก `COPTS` เพื่อจุดประสงค์ในการคอมไพล์กฎนี้ แอตทริบิวต์นี้ไม่จำเป็นต้องใช้บ่อยนัก
`stamp`	`Integer; optional; default is -1` จะเข้ารหัสข้อมูลของบิลด์ลงในไบนารีหรือไม่ ค่าที่เป็นไปได้มีดังนี้ `stamp = 1`: ประทับข้อมูลบิลด์ลงในไบนารีเสมอ แม้กระทั่งในบิลด์ `--nostamp` ควรหลีกเลี่ยงการตั้งค่านี้ เนื่องจากอาจกำจัดการแคชระยะไกลสำหรับไบนารีและการดำเนินการดาวน์สตรีมที่ต้องใช้การตั้งค่าดังกล่าว `stamp = 0`: แทนที่ข้อมูลของบิลด์ด้วยค่าคงที่เสมอ ซึ่งทำให้มีการแคชผลลัพธ์ของบิลด์ที่ดี `stamp = -1`: การฝังข้อมูลของบิลด์จะควบคุมโดยแฟล็ก `--[no]stamp` ระบบจะไม่สร้างไบนารีที่ประทับตราขึ้นมาใหม่เว้นแต่มีการเปลี่ยนแปลงทรัพยากร Dependency
`win_def_file`	`Label; optional` ไฟล์ Windows DEF ที่จะส่งไปยัง Linker ควรใช้แอตทริบิวต์นี้เมื่อ Windows เป็นแพลตฟอร์มเป้าหมายเท่านั้น คุณใช้เพื่อ ส่งออกสัญลักษณ์ระหว่างการลิงก์ไลบรารีที่ใช้ร่วมกันได้

cc_import

cc_import(name, data, hdrs, alwayslink, compatible_with, deprecation, distribs, features, interface_library, licenses, restricted_to, shared_library, static_library, system_provided, tags, target_compatible_with, testonly, visibility)

กฎ cc_import ช่วยให้ผู้ใช้นำเข้าไลบรารี C/C++ ที่คอมไพล์ไว้ล่วงหน้าได้

กรณีการใช้งานทั่วไปมีดังต่อไปนี้
1. การลิงก์ไลบรารีแบบคงที่

cc_import(
  name = "mylib",
  hdrs = ["mylib.h"],
  static_library = "libmylib.a",
  # If alwayslink is turned on,
  # libmylib.a will be forcely linked into any binary that depends on it.
  # alwayslink = 1,
)

2. การลิงก์ไลบรารีที่ใช้ร่วมกัน (Unix)

cc_import(
  name = "mylib",
  hdrs = ["mylib.h"],
  shared_library = "libmylib.so",
)

3. การลิงก์ไลบรารีที่ใช้ร่วมกันกับไลบรารีอินเทอร์เฟซ (Windows)

cc_import(
  name = "mylib",
  hdrs = ["mylib.h"],
  # mylib.lib is a import library for mylib.dll which will be passed to linker
  interface_library = "mylib.lib",
  # mylib.dll will be available for runtime
  shared_library = "mylib.dll",
)

4. การลิงก์ไลบรารีที่ใช้ร่วมกันกับ system_provided=True (Windows)

cc_import(
  name = "mylib",
  hdrs = ["mylib.h"],
  # mylib.lib is an import library for mylib.dll which will be passed to linker
  interface_library = "mylib.lib",
  # mylib.dll is provided by system environment, for example it can be found in PATH.
  # This indicates that Bazel is not responsible for making mylib.dll available.
  system_provided = 1,
)

5. การลิงก์ไปยังไลบรารีแบบคงที่หรือที่ใช้ร่วมกัน
ใน Unix:

cc_import(
  name = "mylib",
  hdrs = ["mylib.h"],
  static_library = "libmylib.a",
  shared_library = "libmylib.so",
)

# first will link to libmylib.a
cc_binary(
  name = "first",
  srcs = ["first.cc"],
  deps = [":mylib"],
  linkstatic = 1, # default value
)

# second will link to libmylib.so
cc_binary(
  name = "second",
  srcs = ["second.cc"],
  deps = [":mylib"],
  linkstatic = 0,
)

ใน Windows:

cc_import(
  name = "mylib",
  hdrs = ["mylib.h"],
  static_library = "libmylib.lib", # A normal static library
  interface_library = "mylib.lib", # An import library for mylib.dll
  shared_library = "mylib.dll",
)

# first will link to libmylib.lib
cc_binary(
  name = "first",
  srcs = ["first.cc"],
  deps = [":mylib"],
  linkstatic = 1, # default value
)

# second will link to mylib.dll through mylib.lib
cc_binary(
  name = "second",
  srcs = ["second.cc"],
  deps = [":mylib"],
  linkstatic = 0,
)

อาร์กิวเมนต์

Attributes
`name`	`Name; required` ชื่อที่ไม่ซ้ำกันสำหรับเป้าหมายนี้
`hdrs`	`List of labels; optional` รายการไฟล์ส่วนหัวที่เผยแพร่โดยไลบรารีที่คอมไพล์ล่วงหน้านี้ที่จะรวมโดยตรงโดยแหล่งที่มาในกฎที่เกี่ยวข้อง
`alwayslink`	`Boolean; optional; default is False` หากเป็น 1 ไบนารีใดก็ตามที่อ้างอิงไลบรารีที่คอมไพล์ C++ ไว้ล่วงหน้า (ทั้งโดยตรงหรือโดยอ้อม) นี้จะลิงก์ในไฟล์ออบเจ็กต์ทั้งหมดที่เก็บไว้ในไลบรารีแบบคงที่ แม้ว่าบางไฟล์จะไม่มีสัญลักษณ์ที่ไบนารีอ้างอิงก็ตาม ซึ่งจะเป็นประโยชน์หากไม่มีการเรียกใช้โค้ดอย่างชัดแจ้งในไบนารี เช่น หากโค้ดของคุณบันทึกเพื่อรับโค้ดเรียกกลับจากบางบริการ หาก Alwayslink ใช้ไม่ได้กับ VS 2017 บน Windows นั่นเป็นเพราะปัญหาที่ทราบแล้ว โปรดอัปเกรด VS 2017 เป็นเวอร์ชันล่าสุด
`interface_library`	`Label; optional` ไลบรารีอินเทอร์เฟซเดี่ยวสำหรับการลิงก์ไลบรารีที่ใช้ร่วมกัน ประเภทไฟล์ที่อนุญาต: `.ifso`, `.tbd`, `.lib`, `.so` หรือ `.dylib`
`shared_library`	`Label; optional` ไลบรารีที่ใช้ร่วมกันรายการเดียวที่คอมไพล์ล่วงหน้า Bazel ช่วยให้มั่นใจว่าจะใช้งานได้กับไบนารีที่ขึ้นอยู่กับทรัพยากรดังกล่าวระหว่างรันไทม์ ประเภทไฟล์ที่อนุญาต: `.so`, `.dll` หรือ `.dylib`
`static_library`	`Label; optional` ไลบรารีแบบคงที่ที่คอมไพล์ไว้ล่วงหน้ารายการเดียว ประเภทไฟล์ที่อนุญาต: `.a`, `.pic.a` หรือ `.lib`
`system_provided`	`Boolean; optional; default is False` หากเป็น 1 แสดงว่าระบบได้ให้ไลบรารีที่ใช้ร่วมกันซึ่งจำเป็นในขณะรันไทม์ ในกรณีนี้ คุณควรระบุ `interface_library` และควรปล่อย `shared_library` ว่างไว้

cc_library

cc_library(name, deps, srcs, data, hdrs, alwayslink, compatible_with, copts, defines, deprecation, distribs, exec_compatible_with, exec_properties, features, implementation_deps, include_prefix, includes, licenses, linkopts, linkstamp, linkstatic, local_defines, nocopts, restricted_to, strip_include_prefix, tags, target_compatible_with, testonly, textual_hdrs, toolchains, visibility, win_def_file)

การตรวจสอบการรวมส่วนหัว

ไฟล์ส่วนหัวทั้งหมดที่ใช้ในบิลด์ต้องได้รับการประกาศในกฎ hdrs หรือ srcs ของ cc_* มีการบังคับใช้แล้ว

สำหรับกฎ cc_library ส่วนหัวใน hdrs ประกอบขึ้นเป็นอินเทอร์เฟซสาธารณะของไลบรารีและสามารถรวมได้โดยตรงจากไฟล์ใน hdrs และ srcs ของตัวไลบรารีเอง รวมถึงจากไฟล์ใน hdrs และกฎ srcs จาก cc_* ที่แสดงรายการไลบรารีใน deps ของไฟล์ ส่วนหัวใน srcs ต้องรวมมาจากไฟล์ใน hdrs และ srcs ของไลบรารีโดยตรงเท่านั้น เมื่อตัดสินใจว่าจะใส่ส่วนหัวใน hdrs หรือ srcs คุณควรถามว่าต้องการให้ผู้บริโภคของไลบรารีนี้รวมส่วนหัวดังกล่าวโดยตรงได้หรือไม่ การตัดสินใจนี้ใกล้เคียงกับเวลาระหว่าง public ถึง private ระดับการเข้าถึงในภาษาโปรแกรม

กฎ cc_binary และ cc_test ไม่มีอินเทอร์เฟซที่ส่งออก จึงไม่มีแอตทริบิวต์ hdrs ด้วย ส่วนหัวทั้งหมดที่เป็นของไบนารีหรือการทดสอบโดยตรงควรแสดงอยู่ใน srcs

เพื่อแสดงให้เห็นถึงกฎเหล่านี้ โปรดดูตัวอย่างต่อไปนี้

cc_binary(
    name = "foo",
    srcs = [
        "foo.cc",
        "foo.h",
    ],
    deps = [":bar"],
)

cc_library(
    name = "bar",
    srcs = [
        "bar.cc",
        "bar-impl.h",
    ],
    hdrs = ["bar.h"],
    deps = [":baz"],
)

cc_library(
    name = "baz",
    srcs = [
        "baz.cc",
        "baz-impl.h",
    ],
    hdrs = ["baz.h"],
)

การรวมโดยตรงที่อนุญาตในตัวอย่างนี้จะแสดงอยู่ในตารางด้านล่าง ตัวอย่างเช่น foo.cc ได้รับอนุญาตให้รวม foo.h และ bar.h โดยตรง แต่ต้องไม่มี baz.h

รวมไฟล์	การรวมที่อนุญาต
foo.h	bar.h
foo.cc	foo.h bar.h
bar.h	bar-impl.h baz.h
bar-impl.h	bar.h baz.h
bar.cc	bar.h bar-impl.h baz.h
baz.h	baz-impl.h
baz-impl.h	baz.h
baz.cc	baz.h baz-impl.h

กฎการตรวจสอบการรวมจะมีผลกับการรวมโดยตรงเท่านั้น ในตัวอย่างด้านบน foo.cc ได้รับอนุญาตให้มี bar.h ซึ่งอาจรวมถึง baz.h ซึ่งก็ได้รับอนุญาตให้มี baz-impl.h ในทางเทคนิค การรวบรวมไฟล์ .cc อาจรวมไฟล์ส่วนหัวไว้ใน hdrs หรือ srcs ใน cc_library เมื่อปิด deps แบบสกรรม ในกรณีนี้ คอมไพเลอร์อาจอ่าน baz.h และ baz-impl.h เมื่อคอมไพล์ foo.cc แต่ foo.cc ต้องไม่มี #include "baz.h" เพื่อให้ได้รับอนุญาต คุณต้องเพิ่ม baz ลงใน deps ของ foo

ขออภัย ขณะนี้ Bazel ไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างการรวมโดยตรงและการรวมแบบสกรรมได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถตรวจจับกรณีข้อผิดพลาดที่ไฟล์มีส่วนหัวโดยตรงแต่อนุญาตให้รวมไว้แบบชั่วคราวเท่านั้นอย่างผิดกฎหมาย เช่น Bazel จะไม่บ่นหากในตัวอย่างข้างต้น foo.cc มี baz.h โดยตรง การกระทำนี้อาจผิดกฎหมาย เนื่องจาก foo ไม่ได้อาศัย baz โดยตรง ขณะนี้จะไม่เกิดข้อผิดพลาดในกรณีนั้น แต่อาจเพิ่มการตรวจสอบข้อผิดพลาดดังกล่าวในอนาคต

อาร์กิวเมนต์

Attributes
`name`	`Name; required` ชื่อที่ไม่ซ้ำกันสำหรับเป้าหมายนี้
`deps`	`List of labels; optional` รายการไลบรารีอื่นๆ ที่จะลิงก์กับเป้าหมายไบนารี ซึ่งอาจเป็นเป้าหมาย `cc_library` หรือ `objc_library` ก็ได้
`srcs`	`List of labels; optional` รายการไฟล์ C และ C++ ที่ประมวลผลเพื่อสร้างเป้าหมาย ไฟล์เหล่านี้เป็นไฟล์ต้นฉบับและส่วนหัว C/C++ ซึ่งอาจไม่ได้สร้างขึ้น (ซอร์สโค้ดปกติ) หรือสร้างขึ้น ระบบจะคอมไพล์ไฟล์ `.cc`, `.c` และ `.cpp` ทั้งหมด ไฟล์เหล่านี้อาจสร้างขึ้น หากไฟล์ที่ตั้งชื่ออยู่ใน `outs` ของกฎอื่น กฎนี้จะขึ้นอยู่กับกฎอื่นนั้นโดยอัตโนมัติ ระบบจะไม่คอมไพล์ไฟล์ `.h` แต่จะรวมตามแหล่งที่มาในกฎนี้ได้ ทั้งไฟล์ `.cc` และ `.h` จะมีส่วนหัวที่ระบุไว้ใน `srcs` เหล่านี้หรือใน `hdrs` ของกฎใดก็ได้ที่แสดงอยู่ในอาร์กิวเมนต์ `deps` ต้องพูดถึงไฟล์ทั้งหมด `#include`d ไฟล์ในแอตทริบิวต์ `srcs` ของกฎนี้ หรือในแอตทริบิวต์ `hdrs` ของ `cc_library()` ที่อ้างอิง รูปแบบที่แนะนำคือสำหรับส่วนหัวที่เชื่อมโยงกับไลบรารีที่จะแสดงในแอตทริบิวต์ `hdrs` ของไลบรารีนั้น และส่วนหัวที่เหลือทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับแหล่งที่มาของกฎนี้จะแสดงใน `srcs` ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน "การตรวจสอบการรวมส่วนหัว" หากชื่อของกฎอยู่ใน `srcs` กฎนี้จะอิงตามกฎดังกล่าวโดยอัตโนมัติ หาก `outs` ของกฎที่มีชื่อเป็นไฟล์ต้นฉบับ C หรือ C++ ระบบจะรวบรวมไฟล์เหล่านั้นไว้ในกฎนี้ หากเป็นไฟล์ไลบรารี ไฟล์ก็จะลิงก์กันเข้ามา ไฟล์ที่อนุญาต `srcs` ประเภท: ไฟล์ต้นฉบับ C และ C++: `.c`, `.cc`, `.cpp`, `.cxx`, `.c++`, `.C` ไฟล์ส่วนหัว C และ C++: `.h`, `.hh`, `.hpp`, `.hxx`, `.inc`, `.inl`, `.H` Assembler with C Preprocessor: `.S` ที่เก็บถาวร: `.a`, `.pic.a` ไลบรารี "ลิงก์เสมอ": `.lo`, `.pic.lo` ไลบรารีที่ใช้ร่วมกัน มีเวอร์ชันหรือไม่กำหนดเวอร์ชัน: `.so`, `.so.version` ไฟล์ออบเจ็กต์: `.o`, `.pic.o` ...และกฎต่างๆ ที่สร้างไฟล์เหล่านี้ ส่วนขยายที่ต่างกันจะบ่งชี้ภาษาโปรแกรมที่ต่างกันตามธรรมเนียมของ GCC
`hdrs`	`List of labels; optional` รายการไฟล์ส่วนหัวที่เผยแพร่โดยไลบรารีนี้ที่จะรวมโดยตรงโดยแหล่งที่มาในกฎที่เกี่ยวข้อง ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่แนะนำอย่างยิ่งสำหรับการประกาศไฟล์ส่วนหัวที่อธิบายอินเทอร์เฟซของไลบรารี ส่วนหัวเหล่านี้จะสามารถรวมตามแหล่งที่มาในกฎนี้หรือในกฎที่เกี่ยวข้องได้ ส่วนหัวที่ไม่ได้มีไว้สำหรับให้ไคลเอ็นต์ของไลบรารีนี้รวมอยู่ควรแสดงในแอตทริบิวต์ `srcs` แทน แม้ว่าส่วนหัวนั้นจะรวมอยู่ในส่วนหัวที่เผยแพร่ก็ตาม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ "การตรวจสอบการรวมส่วนหัว"
`alwayslink`	`Boolean; optional; default is False` หากเป็น 1 ไบนารีใดก็ตามที่อ้างอิง (ทั้งทางตรงและทางอ้อม) ในไลบรารี C++ นี้จะลิงก์ในไฟล์ออบเจ็กต์ทั้งหมดของไฟล์ที่ระบุใน `srcs` แม้ว่าบางไฟล์จะไม่มีสัญลักษณ์ที่ไบนารีอ้างอิงก็ตาม ซึ่งจะเป็นประโยชน์หากไม่มีการเรียกใช้โค้ดอย่างชัดแจ้งในไบนารี เช่น หากโค้ดของคุณบันทึกเพื่อรับโค้ดเรียกกลับจากบางบริการ หาก Alwayslink ใช้ไม่ได้กับ VS 2017 บน Windows นั่นเป็นเพราะปัญหาที่ทราบแล้ว โปรดอัปเกรด VS 2017 เป็นเวอร์ชันล่าสุด
`copts`	`List of strings; optional` เพิ่มตัวเลือกเหล่านี้ในคำสั่งการคอมไพล์ C++ ขึ้นอยู่กับการแทนที่ "สร้างตัวแปร" และการแปลงข้อมูลเป็นโทเค็นของ Bourne shell ระบบจะเพิ่มสตริงแต่ละรายการในแอตทริบิวต์นี้ตามลำดับที่กำหนดไปยัง `COPTS` ก่อนคอมไพล์เป้าหมายไบนารี แฟล็กจะมีผลกับการคอมไพล์เป้าหมายนี้เท่านั้น ไม่ใช่ทรัพยากร Dependency ของ URL นั้นๆ ดังนั้นโปรดระมัดระวังเกี่ยวกับไฟล์ส่วนหัวที่รวมอยู่ที่อื่นด้วย เส้นทางทั้งหมดควรสัมพัทธ์กับพื้นที่ทำงาน ไม่ใช่แพ็กเกจปัจจุบัน หากแพ็กเกจประกาศฟีเจอร์ `no_copts_tokenization` การแปลงเป็นโทเค็นของ Bourne shell จะมีผลกับสตริงที่มีตัวแปร "Make" เพียงรายการเดียวเท่านั้น
`defines`	`List of strings; optional` รายการกำหนดที่จะเพิ่มในบรรทัดคอมไพล์ ขึ้นอยู่กับการแทนที่ ตัวแปร"Make" และการแปลงข้อมูลเป็นโทเค็นของ Bourne shell แต่ละสตริงต้องประกอบด้วยโทเค็น Bourne Shell รายการเดียว ระบบจะใส่ `-D` ไว้หน้าและเพิ่มลงในบรรทัดคำสั่งคอมไพล์ให้กับเป้าหมายนี้ รวมถึงกฎทั้งหมดที่ต้องใช้โทเค็นดังกล่าว โปรดใช้ความระมัดระวังให้มาก เนื่องจากอาจส่งผลกระทบในวงกว้าง หากไม่แน่ใจ ให้เพิ่มการกําหนดค่าลงใน `local_defines` แทน
`implementation_deps`	`List of labels; optional` รายชื่อไลบรารีอื่นๆ ที่ไลบรารีกำหนดเป้าหมายไว้ ส่วนหัวและรวมเส้นทางของไลบรารีเหล่านี้ (และ Dependency แบบทรานซิทีฟทั้งหมด) จะใช้สำหรับการคอมไพล์ไลบรารีนี้เท่านั้น ซึ่งต่างจาก `deps` ตรงที่ไม่ต้องใช้ไลบรารีที่อาศัยไลบรารีนี้ ไลบรารีที่ระบุด้วย `implementation_deps` ยังคงลิงก์อยู่ในเป้าหมายไบนารีที่ขึ้นอยู่กับไลบรารีนี้ สำหรับตอนนี้การใช้งานจะจำกัดอยู่ที่ cc_libraries และได้รับการปกป้องโดยแฟล็ก `--experimental_cc_implementation_deps`
`include_prefix`	`String; optional` คำนำหน้าที่จะเพิ่มไปยังเส้นทางของส่วนหัวของกฎนี้ เมื่อตั้งค่าแล้ว ส่วนหัวในแอตทริบิวต์ `hdrs` ของกฎนี้จะเข้าถึงได้คือค่าของแอตทริบิวต์นี้ที่เพิ่มข้างหน้าเส้นทางที่สัมพันธ์กับที่เก็บ นำคำนำหน้าในแอตทริบิวต์ `strip_include_prefix` ออกก่อนเพิ่มคำนำหน้านี้
`includes`	`List of strings; optional` รายการรวมไดเรกทอรีที่จะเพิ่มลงในบรรทัดคอมไพล์ ขึ้นอยู่กับการแทนที่ "สร้างตัวแปร" แต่ละสตริงจะใส่ `-isystem` ไว้หน้าและเพิ่มลงใน `COPTS` ระบบจะเพิ่มแฟล็กเหล่านี้สำหรับกฎนี้และทุกกฎที่ขึ้นอยู่กับ COPTS (หมายเหตุ: ไม่ใช่กฎเกณฑ์จะขึ้นอยู่กับ) โปรดใช้ความระมัดระวังให้มาก เนื่องจากอาจส่งผลกระทบในวงกว้าง หากไม่แน่ใจ ให้เพิ่มแฟล็ก "-I" ใน COPTS แทน ต้องเพิ่มส่วนหัวลงใน srcs หรือ hdrs ไม่เช่นนั้นจะใช้ไม่ได้กับกฎที่เกี่ยวข้องเมื่อการคอมไพล์เป็นแซนด์บ็อกซ์ (ค่าเริ่มต้น)
`linkopts`	`List of strings; optional` เพิ่มแฟล็กเหล่านี้ไปยังคำสั่ง Linker C++ ขึ้นอยู่กับการแทนที่ ตัวแปร"Make" การแปลงข้อมูลเป็นโทเค็นของ Bourne shell และ การขยายป้ายกำกับ ระบบจะเพิ่มสตริงแต่ละรายการในแอตทริบิวต์นี้ลงใน `LINKOPTS` ก่อนลิงก์เป้าหมายไบนารี ระบบจะถือว่าแต่ละองค์ประกอบในรายการนี้ที่ไม่ได้ขึ้นต้นด้วย `$` หรือ `-` เป็นป้ายกำกับของเป้าหมายใน `deps` รายการไฟล์ที่เป้าหมายนั้นสร้างขึ้นจะต่อท้ายตัวเลือก Linker ระบบจะรายงานข้อผิดพลาดหากป้ายกำกับไม่ถูกต้องหรือไม่ได้ประกาศไว้ใน `deps`
`linkstamp`	`Label; optional` คอมไพล์และลิงก์ไฟล์ต้นฉบับ C++ ที่ระบุไปยังไบนารีสุดท้ายพร้อมกัน เคล็ดลับนี้จำเป็นต่อการแนะนำข้อมูลการประทับเวลาในรูปแบบไบนารี หากเราคอมไพล์ไฟล์ต้นฉบับไปยังไฟล์ออบเจ็กต์ด้วยวิธีปกติ การประทับเวลาอาจไม่ถูกต้อง การคอมไพล์ Linktamp อาจไม่มีชุดแฟล็กคอมไพเลอร์ชุดใดโดยเฉพาะ จึงไม่ควรขึ้นอยู่กับส่วนหัว ตัวเลือกคอมไพเลอร์ หรือตัวแปรบิลด์อื่นๆ ที่เฉพาะเจาะจง ตัวเลือกนี้ควรใช้ในแพ็กเกจ `base` เท่านั้น
`linkstatic`	`Boolean; optional; default is False` สำหรับ `cc_binary` และ `cc_test`: ลิงก์ไบนารีในโหมดคงที่ สำหรับ `cc_library.linkstatic`: โปรดดูด้านล่าง ตามค่าเริ่มต้น ตัวเลือกนี้จะเปิดอยู่สำหรับ `cc_binary` และปิดสำหรับเวอร์ชันที่เหลือ หากเปิดใช้และนี่เป็นไบนารีหรือการทดสอบ ตัวเลือกนี้จะบอกให้เครื่องมือสร้างลิงก์ใน `.a` แทน `.so` สำหรับไลบรารีผู้ใช้ทุกครั้งที่ทำได้ ไลบรารีระบบบางรายการอาจยังคงลิงก์แบบไดนามิกอยู่ เช่น ไลบรารีที่ไม่มีไลบรารีแบบคงที่ ดังนั้นไฟล์สั่งการที่ได้จะยังคงลิงก์แบบไดนามิก จึงมีแต่ไฟล์ส่วนใหญ่แบบคงที่ การลิงก์ไฟล์ปฏิบัติการทำได้ 3 วิธีดังนี้ สถิติที่มีฟีเจอร์full_static_link ซึ่งทุกอย่างลิงก์แบบคงที่ เช่น "`gcc -static foo.o libbar.a libbaz.a -lm`" โหมดนี้เปิดใช้ได้โดยระบุ `fully_static_link` ในแอตทริบิวต์ `features` สถิติ ซึ่งไลบรารีผู้ใช้ทั้งหมดจะลิงก์แบบคงที่ (หากมีเวอร์ชันคงที่) แต่มีการลิงก์ไลบรารีระบบ (ยกเว้นไลบรารีรันไทม์ C/C++) แบบไดนามิก เช่น "`gcc foo.o libfoo.a libbaz.a -lm`" โหมดนี้จะเปิดใช้โดยระบุ `linkstatic=True` ไดนามิก ซึ่งไลบรารีทั้งหมดลิงก์แบบไดนามิก (หากมีเวอร์ชันแบบไดนามิก) เช่น "`gcc foo.o libfoo.so libbaz.so -lm`" โหมดนี้เปิดใช้งานได้โดยการระบุ `linkstatic=False` แอตทริบิวต์ `linkstatic` มีความหมายต่างกันหากใช้กับกฎ `cc_library()` สำหรับไลบรารี C++ แล้ว `linkstatic=True` จะระบุว่าอนุญาต การลิงก์แบบคงที่เท่านั้น ดังนั้นจึงจะไม่มีการสร้าง `.so` linkstatic=False ไม่ได้ป้องกันการสร้างไลบรารีแบบคงที่ แอตทริบิวต์นี้มีไว้เพื่อควบคุมการสร้างไลบรารีแบบไดนามิก หากตั้งค่าเป็น `linkstatic=False` เครื่องมือสร้างจะสร้างลิงก์สัญลักษณ์ไปยังไลบรารีที่ใช้ร่วมกันซึ่งอ้างอิงในพื้นที่ `*.runfiles`
`local_defines`	`List of strings; optional` รายการกำหนดที่จะเพิ่มในบรรทัดคอมไพล์ ขึ้นอยู่กับการแทนที่ ตัวแปร"Make" และการแปลงข้อมูลเป็นโทเค็นของ Bourne shell แต่ละสตริงซึ่งต้องประกอบด้วยโทเค็น Bourne Shell เดี่ยว จะถูกเพิ่มต่อท้ายด้วย `-D` และเพิ่มในบรรทัดคำสั่งของคอมไพล์สำหรับเป้าหมายนี้ แต่ไม่เพิ่มลงในทรัพยากร Dependency
`nocopts`	`String; optional` นำรูปแบบการทำงานออกจากคำสั่งการคอมไพล์ C++ ขึ้นอยู่กับการแทนที่ตัวแปร"ผู้ผลิต" ระบบจะตีความค่าของแอตทริบิวต์นี้เป็นนิพจน์ทั่วไป ระบบจะนำ `COPTS` ที่มีอยู่แล้วก่อนหน้าที่ตรงกับนิพจน์ทั่วไปนี้ (รวมถึงค่าที่ระบุอย่างชัดแจ้งในแอตทริบิวต์ copts ของกฎ) ออกจาก `COPTS` เพื่อจุดประสงค์ในการคอมไพล์กฎนี้ แอตทริบิวต์นี้ไม่จำเป็นต้องใช้บ่อยนัก
`strip_include_prefix`	`String; optional` คำนำหน้าที่ตัดออกจากเส้นทางของส่วนหัวของกฎนี้ เมื่อตั้งค่าแล้ว ส่วนหัวในแอตทริบิวต์ `hdrs` ของกฎนี้จะเข้าถึงได้ที่เส้นทางของส่วนหัวที่ตัดคำนำหน้านี้ หากเป็นเส้นทางแบบสัมพัทธ์ ระบบจะถือว่าเป็นเส้นทางที่ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ หากเป็นเส้นทางสัมบูรณ์ ระบบจะเข้าใจว่าเป็นเส้นทางแบบสัมพัทธ์ของที่เก็บ ระบบจะเพิ่มคำนำหน้าในแอตทริบิวต์ `include_prefix` หลังจากนำคำนำหน้านี้ออก
`textual_hdrs`	`List of labels; optional` รายการไฟล์ส่วนหัวที่เผยแพร่โดยไลบรารีนี้เพื่อรวมข้อความโดยแหล่งที่มาในกฎที่เกี่ยวข้อง นี่คือตำแหน่งสำหรับการประกาศไฟล์ส่วนหัวที่คอมไพล์ด้วยตนเองไม่ได้ กล่าวคือ ไฟล์ต้นฉบับอื่นๆ ต้องใส่เป็นข้อความเสมอเพื่อสร้างโค้ดที่ถูกต้อง
`win_def_file`	`Label; optional` ไฟล์ Windows DEF ที่จะส่งไปยัง Linker ควรใช้แอตทริบิวต์นี้เมื่อ Windows เป็นแพลตฟอร์มเป้าหมายเท่านั้น คุณใช้เพื่อ ส่งออกสัญลักษณ์ระหว่างการลิงก์ไลบรารีที่ใช้ร่วมกันได้

cc_proto_library

cc_proto_library(name, deps, data, compatible_with, deprecation, distribs, exec_compatible_with, exec_properties, features, licenses, restricted_to, tags, target_compatible_with, testonly, visibility)

cc_proto_library สร้างโค้ด C++ จาก .proto ไฟล์

deps ต้องชี้ไปที่กฎ proto_library

ตัวอย่าง

cc_library(
    name = "lib",
    deps = [":foo_cc_proto"],
)

cc_proto_library(
    name = "foo_cc_proto",
    deps = [":foo_proto"],
)

proto_library(
    name = "foo_proto",
)

อาร์กิวเมนต์

Attributes

name

Name; required

ชื่อที่ไม่ซ้ำกันสำหรับเป้าหมายนี้

deps

List of labels; optional

รายการกฎ proto_library สำหรับสร้างโค้ด C++

fdo_prefetch_hints

fdo_prefetch_hints(name, compatible_with, deprecation, distribs, features, licenses, profile, restricted_to, tags, target_compatible_with, testonly, visibility)

แสดงโปรไฟล์คำแนะนำที่ดึงข้อมูลล่วงหน้าของ FDO ซึ่งอยู่ในพื้นที่ทำงานหรือในเส้นทางสัมบูรณ์ที่ระบุ ตัวอย่าง

fdo_prefetch_hints(
    name = "hints",
    profile = "//path/to/hints:profile.afdo",
)

fdo_profile(
  name = "hints_abs",
  absolute_path_profile = "/absolute/path/profile.afdo",
)

อาร์กิวเมนต์

Attributes

name

Name; required

ชื่อที่ไม่ซ้ำกันสำหรับเป้าหมายนี้

profile

Label; optional

ป้ายกำกับของโปรไฟล์คำแนะนำ ไฟล์คำแนะนำมีนามสกุล .afdo ป้ายกำกับยังชี้ไปยังกฎ fdo_absolute_path_profile ได้ด้วย

fdo_profile

fdo_profile(name, absolute_path_profile, compatible_with, deprecation, distribs, features, licenses, profile, proto_profile, restricted_to, tags, target_compatible_with, testonly, visibility)

แสดงโปรไฟล์ FDO ที่อยู่ในพื้นที่ทำงานหรือในเส้นทางสัมบูรณ์ที่ระบุ ตัวอย่าง

fdo_profile(
    name = "fdo",
    profile = "//path/to/fdo:profile.zip",
)

fdo_profile(
  name = "fdo_abs",
  absolute_path_profile = "/absolute/path/profile.zip",
)

อาร์กิวเมนต์

Attributes
`name`	`Name; required` ชื่อที่ไม่ซ้ำกันสำหรับเป้าหมายนี้
`absolute_path_profile`	`String; optional` เส้นทางสัมบูรณ์ไปยังโปรไฟล์ FDO ไฟล์ FDO อาจมีนามสกุลอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ .profraw สำหรับโปรไฟล์ LLVM ที่ไม่ได้จัดทำดัชนี, .profdata สำหรับโปรไฟล์ LLVM ที่จัดทำดัชนี, .zip ที่มีโปรไฟล์ LLVM Profraw หรือ .afdo สำหรับโปรไฟล์ AutoFDO
`profile`	`Label; optional` ป้ายกำกับของโปรไฟล์ FDO หรือกฎที่สร้างโปรไฟล์ ไฟล์ FDO อาจมีนามสกุลอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้: .profraw สำหรับโปรไฟล์ LLVM ที่ไม่ได้จัดทำดัชนี, .profdata สำหรับโปรไฟล์ LLVM ที่จัดทำดัชนี, .zip ที่มีโปรไฟล์ LLVM Profraw, .afdo สำหรับโปรไฟล์ AutoFDO, .xfdo สำหรับโปรไฟล์ XBinary ป้ายกำกับยังสามารถชี้ไปยังกฎ fdo_absolute_path_profile
`proto_profile`	`Label; optional` ป้ายกำกับของโปรไฟล์ protobuf

propeller_optimize

propeller_optimize(name, compatible_with, deprecation, distribs, features, ld_profile, licenses, restricted_to, tags, target_compatible_with, testonly, visibility)

แสดงโปรไฟล์การเพิ่มประสิทธิภาพ Propeller ในพื้นที่ทำงาน ตัวอย่าง

propeller_optimize(
    name = "layout",
    cc_profile = "//path:cc_profile.txt",
    ld_profile = "//path:ld_profile.txt"
)

propeller_optimize(
    name = "layout_absolute",
    absolute_cc_profile = "/absolute/cc_profile.txt",
    absolute_ld_profile = "/absolute/ld_profile.txt"
)

อาร์กิวเมนต์

Attributes

name

Name; required

ชื่อที่ไม่ซ้ำกันสำหรับเป้าหมายนี้

ld_profile

Label; optional

ป้ายกำกับของโปรไฟล์ที่ส่งไปยังการทำงานของลิงก์ ไฟล์นี้มีนามสกุล .txt

cc_test

cc_test(name, deps, srcs, data, additional_linker_inputs, args, compatible_with, copts, defines, deprecation, distribs, env, env_inherit, exec_compatible_with, exec_properties, features, flaky, includes, licenses, linkopts, linkstatic, local, local_defines, malloc, nocopts, restricted_to, shard_count, size, stamp, tags, target_compatible_with, testonly, timeout, toolchains, visibility, win_def_file)

อาร์กิวเมนต์

Attributes
`name`	`Name; required` ชื่อที่ไม่ซ้ำกันสำหรับเป้าหมายนี้
`deps`	`List of labels; optional` รายการไลบรารีอื่นๆ ที่จะลิงก์กับเป้าหมายไบนารี ซึ่งอาจเป็นเป้าหมาย `cc_library` หรือ `objc_library` ก็ได้
`srcs`	`List of labels; optional` รายการไฟล์ C และ C++ ที่ประมวลผลเพื่อสร้างเป้าหมาย ไฟล์เหล่านี้เป็นไฟล์ต้นฉบับและส่วนหัว C/C++ ซึ่งอาจไม่ได้สร้างขึ้น (ซอร์สโค้ดปกติ) หรือสร้างขึ้น ระบบจะคอมไพล์ไฟล์ `.cc`, `.c` และ `.cpp` ทั้งหมด ไฟล์เหล่านี้อาจสร้างขึ้น หากไฟล์ที่ตั้งชื่ออยู่ใน `outs` ของกฎอื่น กฎนี้จะขึ้นอยู่กับกฎอื่นนั้นโดยอัตโนมัติ ระบบจะไม่คอมไพล์ไฟล์ `.h` แต่จะรวมตามแหล่งที่มาในกฎนี้ได้ ทั้งไฟล์ `.cc` และ `.h` จะมีส่วนหัวที่ระบุไว้ใน `srcs` เหล่านี้หรือใน `hdrs` ของกฎใดก็ได้ที่แสดงอยู่ในอาร์กิวเมนต์ `deps` ต้องพูดถึงไฟล์ทั้งหมด `#include`d ไฟล์ในแอตทริบิวต์ `srcs` ของกฎนี้ หรือในแอตทริบิวต์ `hdrs` ของ `cc_library()` ที่อ้างอิง รูปแบบที่แนะนำคือสำหรับส่วนหัวที่เชื่อมโยงกับไลบรารีที่จะแสดงในแอตทริบิวต์ `hdrs` ของไลบรารีนั้น และส่วนหัวที่เหลือทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับแหล่งที่มาของกฎนี้จะแสดงใน `srcs` ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน "การตรวจสอบการรวมส่วนหัว" หากชื่อของกฎอยู่ใน `srcs` กฎนี้จะอิงตามกฎดังกล่าวโดยอัตโนมัติ หาก `outs` ของกฎที่มีชื่อเป็นไฟล์ต้นฉบับ C หรือ C++ ระบบจะรวบรวมไฟล์เหล่านั้นไว้ในกฎนี้ หากเป็นไฟล์ไลบรารี ไฟล์ก็จะลิงก์กันเข้ามา ไฟล์ที่อนุญาต `srcs` ประเภท: ไฟล์ต้นฉบับ C และ C++: `.c`, `.cc`, `.cpp`, `.cxx`, `.c++`, `.C` ไฟล์ส่วนหัว C และ C++: `.h`, `.hh`, `.hpp`, `.hxx`, `.inc`, `.inl`, `.H` Assembler with C Preprocessor: `.S` ที่เก็บถาวร: `.a`, `.pic.a` ไลบรารี "ลิงก์เสมอ": `.lo`, `.pic.lo` ไลบรารีที่ใช้ร่วมกัน มีเวอร์ชันหรือไม่กำหนดเวอร์ชัน: `.so`, `.so.version` ไฟล์ออบเจ็กต์: `.o`, `.pic.o` ...และกฎต่างๆ ที่สร้างไฟล์เหล่านี้ ส่วนขยายที่ต่างกันจะบ่งชี้ภาษาโปรแกรมที่ต่างกันตามธรรมเนียมของ GCC
`additional_linker_inputs`	`List of labels; optional` ส่งผ่านไฟล์เหล่านี้ไปยังคำสั่ง Linker C++ เช่น ไฟล์ .res ของ Windows ที่คอมไพล์อาจจะมีให้ที่นี่เพื่อฝังลงในเป้าหมายไบนารี
`copts`	`List of strings; optional` เพิ่มตัวเลือกเหล่านี้ในคำสั่งการคอมไพล์ C++ ขึ้นอยู่กับการแทนที่ "สร้างตัวแปร" และการแปลงข้อมูลเป็นโทเค็นของ Bourne shell ระบบจะเพิ่มสตริงแต่ละรายการในแอตทริบิวต์นี้ตามลำดับที่กำหนดไปยัง `COPTS` ก่อนคอมไพล์เป้าหมายไบนารี แฟล็กจะมีผลกับการคอมไพล์เป้าหมายนี้เท่านั้น ไม่ใช่ทรัพยากร Dependency ของ URL นั้นๆ ดังนั้นโปรดระมัดระวังเกี่ยวกับไฟล์ส่วนหัวที่รวมอยู่ที่อื่นด้วย เส้นทางทั้งหมดควรสัมพัทธ์กับพื้นที่ทำงาน ไม่ใช่แพ็กเกจปัจจุบัน หากแพ็กเกจประกาศฟีเจอร์ `no_copts_tokenization` การแปลงเป็นโทเค็นของ Bourne shell จะมีผลกับสตริงที่มีตัวแปร "Make" เพียงรายการเดียวเท่านั้น
`defines`	`List of strings; optional` รายการกำหนดที่จะเพิ่มในบรรทัดคอมไพล์ ขึ้นอยู่กับการแทนที่ ตัวแปร"Make" และการแปลงข้อมูลเป็นโทเค็นของ Bourne shell แต่ละสตริงต้องประกอบด้วยโทเค็น Bourne Shell รายการเดียว ระบบจะใส่ `-D` ไว้หน้าและเพิ่มลงในบรรทัดคำสั่งคอมไพล์ให้กับเป้าหมายนี้ รวมถึงกฎทั้งหมดที่ต้องใช้โทเค็นดังกล่าว โปรดใช้ความระมัดระวังให้มาก เนื่องจากอาจส่งผลกระทบในวงกว้าง หากไม่แน่ใจ ให้เพิ่มการกําหนดค่าลงใน `local_defines` แทน
`includes`	`List of strings; optional` รายการรวมไดเรกทอรีที่จะเพิ่มลงในบรรทัดคอมไพล์ ขึ้นอยู่กับการแทนที่ "สร้างตัวแปร" แต่ละสตริงจะใส่ `-isystem` ไว้หน้าและเพิ่มลงใน `COPTS` ระบบจะเพิ่มแฟล็กเหล่านี้สำหรับกฎนี้และทุกกฎที่ขึ้นอยู่กับ COPTS (หมายเหตุ: ไม่ใช่กฎเกณฑ์จะขึ้นอยู่กับ) โปรดใช้ความระมัดระวังให้มาก เนื่องจากอาจส่งผลกระทบในวงกว้าง หากไม่แน่ใจ ให้เพิ่มแฟล็ก "-I" ใน COPTS แทน ต้องเพิ่มส่วนหัวลงใน srcs หรือ hdrs ไม่เช่นนั้นจะใช้ไม่ได้กับกฎที่เกี่ยวข้องเมื่อการคอมไพล์เป็นแซนด์บ็อกซ์ (ค่าเริ่มต้น)
`linkopts`	`List of strings; optional` เพิ่มแฟล็กเหล่านี้ไปยังคำสั่ง Linker C++ ขึ้นอยู่กับการแทนที่ ตัวแปร"Make" การแปลงข้อมูลเป็นโทเค็นของ Bourne shell และ การขยายป้ายกำกับ ระบบจะเพิ่มสตริงแต่ละรายการในแอตทริบิวต์นี้ลงใน `LINKOPTS` ก่อนลิงก์เป้าหมายไบนารี ระบบจะถือว่าแต่ละองค์ประกอบในรายการนี้ที่ไม่ได้ขึ้นต้นด้วย `$` หรือ `-` เป็นป้ายกำกับของเป้าหมายใน `deps` รายการไฟล์ที่เป้าหมายนั้นสร้างขึ้นจะต่อท้ายตัวเลือก Linker ระบบจะรายงานข้อผิดพลาดหากป้ายกำกับไม่ถูกต้องหรือไม่ได้ประกาศไว้ใน `deps`
`linkstatic`	`Boolean; optional; default is False` สำหรับ `cc_binary` และ `cc_test`: ลิงก์ไบนารีในโหมดคงที่ สำหรับ `cc_library.linkstatic`: โปรดดูด้านล่าง ตามค่าเริ่มต้น ตัวเลือกนี้จะเปิดอยู่สำหรับ `cc_binary` และปิดสำหรับเวอร์ชันที่เหลือ หากเปิดใช้และนี่เป็นไบนารีหรือการทดสอบ ตัวเลือกนี้จะบอกให้เครื่องมือสร้างลิงก์ใน `.a` แทน `.so` สำหรับไลบรารีผู้ใช้ทุกครั้งที่ทำได้ ไลบรารีระบบบางรายการอาจยังคงลิงก์แบบไดนามิกอยู่ เช่น ไลบรารีที่ไม่มีไลบรารีแบบคงที่ ดังนั้นไฟล์สั่งการที่ได้จะยังคงลิงก์แบบไดนามิก จึงมีแต่ไฟล์ส่วนใหญ่แบบคงที่ การลิงก์ไฟล์ปฏิบัติการทำได้ 3 วิธีดังนี้ สถิติที่มีฟีเจอร์full_static_link ซึ่งทุกอย่างลิงก์แบบคงที่ เช่น "`gcc -static foo.o libbar.a libbaz.a -lm`" โหมดนี้เปิดใช้ได้โดยระบุ `fully_static_link` ในแอตทริบิวต์ `features` สถิติ ซึ่งไลบรารีผู้ใช้ทั้งหมดจะลิงก์แบบคงที่ (หากมีเวอร์ชันคงที่) แต่มีการลิงก์ไลบรารีระบบ (ยกเว้นไลบรารีรันไทม์ C/C++) แบบไดนามิก เช่น "`gcc foo.o libfoo.a libbaz.a -lm`" โหมดนี้จะเปิดใช้โดยระบุ `linkstatic=True` ไดนามิก ซึ่งไลบรารีทั้งหมดลิงก์แบบไดนามิก (หากมีเวอร์ชันแบบไดนามิก) เช่น "`gcc foo.o libfoo.so libbaz.so -lm`" โหมดนี้เปิดใช้งานได้โดยการระบุ `linkstatic=False` แอตทริบิวต์ `linkstatic` มีความหมายต่างกันหากใช้กับกฎ `cc_library()` สำหรับไลบรารี C++ แล้ว `linkstatic=True` จะระบุว่าอนุญาต การลิงก์แบบคงที่เท่านั้น ดังนั้นจึงจะไม่มีการสร้าง `.so` linkstatic=False ไม่ได้ป้องกันการสร้างไลบรารีแบบคงที่ แอตทริบิวต์นี้มีไว้เพื่อควบคุมการสร้างไลบรารีแบบไดนามิก หากตั้งค่าเป็น `linkstatic=False` เครื่องมือสร้างจะสร้างลิงก์สัญลักษณ์ไปยังไลบรารีที่ใช้ร่วมกันซึ่งอ้างอิงในพื้นที่ `*.runfiles`
`local_defines`	`List of strings; optional` รายการกำหนดที่จะเพิ่มในบรรทัดคอมไพล์ ขึ้นอยู่กับการแทนที่ ตัวแปร"Make" และการแปลงข้อมูลเป็นโทเค็นของ Bourne shell แต่ละสตริงซึ่งต้องประกอบด้วยโทเค็น Bourne Shell เดี่ยว จะถูกเพิ่มต่อท้ายด้วย `-D` และเพิ่มในบรรทัดคำสั่งของคอมไพล์สำหรับเป้าหมายนี้ แต่ไม่เพิ่มลงในทรัพยากร Dependency
`malloc`	`Label; optional; default is @bazel_tools//tools/cpp:malloc` ลบล้างทรัพยากร Dependency เริ่มต้นบน Malloc โดยค่าเริ่มต้น ไบนารี C++ จะลิงก์กับ `//tools/cpp:malloc` ซึ่งเป็นไลบรารีว่าง ไบนารีจึงใช้ libc Malloc แทน ป้ายกำกับนี้ต้องอ้างอิงถึง `cc_library` หากการคอมไพล์เป็นกฎที่ไม่ใช่ C++ ตัวเลือกนี้จะไม่มีผล ระบบจะละเว้นค่าของแอตทริบิวต์นี้หากระบุ `linkshared=True`
`nocopts`	`String; optional` นำรูปแบบการทำงานออกจากคำสั่งการคอมไพล์ C++ ขึ้นอยู่กับการแทนที่ตัวแปร"ผู้ผลิต" ระบบจะตีความค่าของแอตทริบิวต์นี้เป็นนิพจน์ทั่วไป ระบบจะนำ `COPTS` ที่มีอยู่แล้วก่อนหน้าที่ตรงกับนิพจน์ทั่วไปนี้ (รวมถึงค่าที่ระบุอย่างชัดแจ้งในแอตทริบิวต์ copts ของกฎ) ออกจาก `COPTS` เพื่อจุดประสงค์ในการคอมไพล์กฎนี้ แอตทริบิวต์นี้ไม่จำเป็นต้องใช้บ่อยนัก
`stamp`	`Integer; optional; default is 0` จะเข้ารหัสข้อมูลของบิลด์ลงในไบนารีหรือไม่ ค่าที่เป็นไปได้มีดังนี้ `stamp = 1`: ประทับข้อมูลบิลด์ลงในไบนารีเสมอ แม้กระทั่งในบิลด์ `--nostamp` ควรหลีกเลี่ยงการตั้งค่านี้ เนื่องจากอาจกำจัดการแคชระยะไกลสำหรับไบนารีและการดำเนินการดาวน์สตรีมที่ต้องใช้การตั้งค่าดังกล่าว `stamp = 0`: แทนที่ข้อมูลของบิลด์ด้วยค่าคงที่เสมอ ซึ่งทำให้มีการแคชผลลัพธ์ของบิลด์ที่ดี `stamp = -1`: การฝังข้อมูลของบิลด์จะควบคุมโดยแฟล็ก `--[no]stamp` ระบบจะไม่สร้างไบนารีที่ประทับตราขึ้นมาใหม่เว้นแต่มีการเปลี่ยนแปลงทรัพยากร Dependency
`win_def_file`	`Label; optional` ไฟล์ Windows DEF ที่จะส่งไปยัง Linker ควรใช้แอตทริบิวต์นี้เมื่อ Windows เป็นแพลตฟอร์มเป้าหมายเท่านั้น คุณใช้เพื่อ ส่งออกสัญลักษณ์ระหว่างการลิงก์ไลบรารีที่ใช้ร่วมกันได้

cc_toolchain

cc_toolchain(name, all_files, ar_files, as_files, compatible_with, compiler, compiler_files, compiler_files_without_includes, coverage_files, cpu, deprecation, distribs, dwp_files, dynamic_runtime_lib, exec_transition_for_inputs, features, libc_top, licenses, linker_files, module_map, objcopy_files, restricted_to, static_runtime_lib, strip_files, supports_header_parsing, supports_param_files, tags, target_compatible_with, testonly, toolchain_config, toolchain_identifier, visibility)

แสดงเชนเครื่องมือ C++

กฎข้อนี้เป็นผู้รับผิดชอบต่อสิ่งต่อไปนี้

กำลังรวบรวมอาร์ติแฟกต์ทั้งหมดที่ต้องใช้เพื่อเรียกใช้การดำเนินการ C++ ซึ่งทำโดยแอตทริบิวต์ต่างๆ เช่น all_files, compiler_files, linker_files หรือแอตทริบิวต์อื่นๆ ที่ลงท้ายด้วย _files) ซึ่งเป็นกลุ่มไฟล์ที่โดยทั่วไปแล้วมีไฟล์ที่จำเป็นทั้งหมด
สร้างบรรทัดคำสั่งที่ถูกต้องสำหรับการทำงาน C++ โดยใช้ผู้ให้บริการ CcToolchainConfigInfo (รายละเอียดด้านล่าง)

ใช้แอตทริบิวต์ toolchain_config เพื่อกำหนดค่าเชนเครื่องมือ C++ นอกจากนี้ โปรดดูเอกสารประกอบเกี่ยวกับการกำหนดค่าเชนเครื่องมือของ C++ และการเลือกเครื่องมืออย่างละเอียดใน หน้านี้

ใช้ tags = ["manual"] เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบสร้างและกำหนดค่า Toolchain ไม่จำเป็นเมื่อเรียกใช้ bazel build //...

อาร์กิวเมนต์

Attributes
`name`	`Name; required` ชื่อที่ไม่ซ้ำกันสำหรับเป้าหมายนี้
`all_files`	`Label; required` คอลเล็กชันของอาร์ติแฟกต์ cc_toolchain ทั้งหมด ระบบจะเพิ่มอาร์ติแฟกต์เหล่านี้เป็นอินพุตสำหรับการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับ rules_cc ทั้งหมด (ยกเว้นการดำเนินการที่ใช้ชุดอาร์ติแฟกต์ที่แม่นยำยิ่งขึ้นจากแอตทริบิวต์ด้านล่าง) Bazel ถือว่า `all_files` เป็นชุด Supers ของแอตทริบิวต์ที่มีอาร์ติแฟกต์อื่นๆ ทั้งหมด (เช่น การคอมไพล์ linktamp ต้องใช้ทั้งไฟล์คอมไพล์และลิงก์ ดังนั้นต้องใช้ `all_files`) เงื่อนไขนี้คือสิ่งที่ `cc_toolchain.files` ประกอบด้วย และกฎต่างๆ ของ Starlark ทั้งหมดที่ใช้เครื่องมือ C++ ใช้อยู่
`ar_files`	`Label; optional` คอลเล็กชันของอาร์ติแฟกต์ cc_toolchain ทั้งหมดที่ต้องใช้ในการเก็บถาวร
`as_files`	`Label; optional` คอลเล็กชันของอาร์ติแฟกต์ cc_toolchain ทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการทำงานเพื่อประกอบ
`compiler`	`String; optional; nonconfigurable` เลิกใช้งานแล้ว ให้ใช้แอตทริบิวต์ `toolchain_identifier` แทน ซึ่งจะเป็นโหนดหลังจากมีการ ย้ายข้อมูล CROSSTOOL ไปยัง Starlark และจะถูกนำออกภายในวันที่ #7075 เมื่อตั้งค่าแล้วจะใช้เพื่อทำการเลือก Crosstool_config.toolchain ซึ่งจะมีลำดับความสำคัญเหนือตัวเลือก --cpu Bazel
`compiler_files`	`Label; required` คอลเล็กชันของอาร์ติแฟกต์ cc_toolchain ทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการคอมไพล์
`compiler_files_without_includes`	`Label; optional` การรวบรวมอาร์ติแฟกต์ cc_toolchain ทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการคอมไพล์ในกรณีที่รองรับการค้นพบอินพุต (ปัจจุบันใช้งานได้เฉพาะ Google เท่านั้น)
`coverage_files`	`Label; optional` การรวบรวมอาร์ติแฟกต์ cc_toolchain ทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับการครอบคลุม หากไม่ได้ระบุไว้ ระบบจะใช้ all_files
`cpu`	`String; optional; nonconfigurable` เลิกใช้งานแล้ว ให้ใช้แอตทริบิวต์ Toolchain_identifier แทน โดยจะเป็นช่องโหว่หลังจากการย้ายข้อมูล CROSSTOOL ไปยัง Starlark และจะถูกนำออกภายในวันที่ #7075 เมื่อตั้งค่าแล้วจะใช้เพื่อทำการเลือก Crosstool_config.toolchain ซึ่งจะมีลำดับความสำคัญเหนือตัวเลือก --cpu Bazel
`dwp_files`	`Label; required` คอลเล็กชันของอาร์ติแฟกต์ cc_toolchain ทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการ dwp
`dynamic_runtime_lib`	`Label; optional` อาร์ติแฟกต์ไลบรารีแบบไดนามิกสำหรับไลบรารีรันไทม์ C++ (เช่น libstdc++.so) ระบบจะใช้ข้อมูลนี้เมื่อเปิดใช้ฟีเจอร์ "static_link_cpp_runtimes" และเรากำลังลิงก์ทรัพยากร Dependency แบบไดนามิก
`exec_transition_for_inputs`	`Boolean; optional; default is True` ตั้งค่าเป็น "จริง" เพื่อสร้างอินพุตไฟล์ทั้งหมดไปยัง cc_toolchain สำหรับแพลตฟอร์ม exec แทนที่จะไม่มีการเปลี่ยน (เช่น แพลตฟอร์มเป้าหมายโดยค่าเริ่มต้น)
`libc_top`	`Label; optional` คอลเล็กชันอาร์ติแฟกต์สำหรับ libc ที่ส่งผ่านเป็นอินพุตไปยังการดำเนินการคอมไพล์/ลิงก์
`linker_files`	`Label; required` คอลเล็กชันของอาร์ติแฟกต์ cc_toolchain ทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการลิงก์การดำเนินการ
`module_map`	`Label; optional` อาร์ติแฟกต์แมปโมดูลที่จะใช้สำหรับบิลด์แบบโมดูลาร์
`objcopy_files`	`Label; required` คอลเล็กชันของอาร์ติแฟกต์ cc_toolchain ทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการ objcopy
`static_runtime_lib`	`Label; optional` อาร์ติแฟกต์ไลบรารีแบบคงที่สำหรับไลบรารีรันไทม์ C++ (เช่น libstdc++.a) ระบบจะใช้ข้อมูลนี้เมื่อเปิดใช้ฟีเจอร์ "static_link_cpp_runtimes" และเรากำลังลิงก์ทรัพยากร Dependency แบบคงที่
`strip_files`	`Label; required` คอลเล็กชันของอาร์ติแฟกต์ cc_toolchain ทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการ Strip
`supports_header_parsing`	`Boolean; optional; default is False` ตั้งค่าเป็น "จริง" เมื่อ cc_toolchain รองรับการดำเนินการแยกวิเคราะห์ส่วนหัว
`supports_param_files`	`Boolean; optional; default is True` ตั้งค่าเป็น "จริง" เมื่อ cc_toolchain รองรับการใช้ไฟล์พารามิเตอร์สำหรับการลิงก์การดำเนินการ
`toolchain_config`	`Label; required` ป้ายกำกับของกฎที่ระบุ `cc_toolchain_config_info`
`toolchain_identifier`	`String; optional; nonconfigurable` ตัวระบุที่ใช้จับคู่ cc_toolchain นี้กับ Crosstool_config.toolchain ที่เกี่ยวข้อง นี่คือวิธีที่แนะนำในการเชื่อมโยง `cc_toolchain` กับ `CROSSTOOL.toolchain` จนกว่าปัญหา #5380 จะได้รับการแก้ไข จะแทนที่ด้วยแอตทริบิวต์ `toolchain_config` (#5380)

cc_toolchain_suite

cc_toolchain_suite(name, compatible_with, deprecation, distribs, features, licenses, restricted_to, tags, target_compatible_with, testonly, toolchains, visibility)

แสดงคอลเล็กชันของเชนเครื่องมือ C++

กฎข้อนี้เป็นผู้รับผิดชอบต่อสิ่งต่อไปนี้

รวบรวมชุดเครื่องมือ C++ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
เลือกเชนเครื่องมือ 1 รายการตามตัวเลือก --cpu และ --compiler ที่ส่งไปยัง Bazel

นอกจากนี้ โปรดดูเอกสารประกอบเกี่ยวกับการกำหนดค่าเชนเครื่องมือของ C++ และการเลือกเครื่องมืออย่างละเอียดใน หน้านี้

อาร์กิวเมนต์

Attributes

name

Name; required

ชื่อที่ไม่ซ้ำกันสำหรับเป้าหมายนี้

toolchains

Dictionary mapping strings to labels; required; nonconfigurable

แผนที่จากสตริง "<cpu>" หรือ "<cpu>|<คอมไพเลอร์>" ไปยังป้ายกำกับ cc_toolchain จะใช้ "<cpu>" ก็ต่อเมื่อส่งผ่าน --cpu ไปยัง Bazel เท่านั้น และจะใช้ "<cpu>|< Compu>" เมื่อมีการส่งทั้ง --cpu และ --compiler ไปยัง Bazel ตัวอย่าง

          cc_toolchain_suite(
            name = "toolchain",
            toolchains = {
              "piii|gcc": ":my_cc_toolchain_for_piii_using_gcc",
              "piii": ":my_cc_toolchain_for_piii_using_default_compiler",
            },
          )